sakkapoom.blogspot.com

.......................................................
ผ่านทาง... สร้างประสบการณ์ ให้ชีวิต
ผ่านชีวิต... สร้างจิตสำนึก ต่อสังคม
ผ่านสังคม... มอบสิ่งดีงาม เอาไว้ให้
ผ่านไป... ชีวิตวางทางไว้เบื้องหลัง จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้หันกลับไปมอง.


25 ตุลาคม, 2550

ทำบุญด้วยแรง 1.

นิตยสาร FINANCIAL freedom ...(คิดต่าง ทางเดียวกัน)
volume 01 number 07 APRIL 2007


ปี ๒๕๔๙ เป็นปีแห่งการรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง เนื่องในวโรกาสทรงครองราชครบ ๖๐ ปี ช่วงกลางปีนั้นผมและคณะมูลนิธิมวยไทยไชยา ได้เดินทางไปที่วัดต่าง ๆ หลายวัดในเขตจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมสร้างพระ
พวกเราได้รับข่าวจากสมาชิกมูลนิธิมวยไทยไชยาคนหนึ่ง ซึ่งเคยบวชเรียนที่วัดที่จัดสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แรกเริ่มนั้นพระอาจารย์วีระและพระลูกวัดทำการหล่อพระกันเอง ด้วยกำลังพระเพียงสิบกว่ารูป ผสมปูน เทปูนกันเองมาสองวันสองคืนแล้ว แต่งานยังไม่คืบหน้า ซึ่งเป็นเรื่องยากลำบากมากที่แรงงานเพียงสิบกว่าคนกับงานเทปูนหล่อพระหนักนับร้อยตัน

พระอาจารย์วีระท่านจึงโทรมา ขอแรง...ให้ไปช่วยกันสร้างพระ งานนี้ไม่ต้องการเงินบริจาค ไม่ต้อการปัจจัยอื่น หากแต่ต้องการแรงงาน กำลังกายเท่านั้น... ซึ่งหลังจากงานนั้นเป็นต้นมา ผมและคณะก็ถือเป็นกิจวัตรสำคัญที่ต้องไปทำ เมื่อทราบข่าวว่าแม่พิมพ์พระองค์นี้ถูกนำไปจัดสร้างที่วัดใด พวกเราก็จะตามไปร่วมทำบุญด้วยแรงเกือบทุกครั้ง หากระยะทางไม่ไกลนัก
พระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์นี้หน้าตักกว้าง ๕ เมตร ๙๐ / สูง ๘ เมตร จัดสร้างขึ้นโดยพระอาจารย์วิโรจน์ เจ้าอาวาสวัดสะพัง กำแพงแสน นครปฐม เมื่อสร้างเสร็จได้ทำพิมพ์ไว้ แม่พิมพ์พระใหญ่องค์นี้ถูกนำไปจัดสร้างในหลาย ๆ วัด ส่งต่อกันมาจนถึงวัดในจังหวัดกาญจนบุรี (ปัจจุบันได้สร้างพระจากแม่แบบนี้ให้กับวัดต่าง ๆ ไปแล้วกว่า ๒๐ องค์ / ปี ๒๕๔๙)



การสร้างพระเริ่มจากทุนสองแสนบาท จากการรับบริจาคทั่วไปหรือจากผู้มีจิตศรัทธาขอเป็นประธานในการจัดสร้างโดยตรง โดยทุนที่ได้นำไปซื้อวัสดุในการก่อสร้าง อิฐ หิน(นิล) ปูน ทราย เหล็ก ฯลฯ จากนั้นก็ก่ออิฐขึ้นฐานที่ตั้งองค์พระและผูกเหล็กแบบขึ้นรูปแล้วจึงนำแม่พิมพ์มาประกอบ จากนั้นจึงเริ่มผสมปูนทรายและนิล (เป็นความเชื่อเรื่องแร่รัตนชาติ ซึ่งนิลในแถบนั้นหาได้ง่ายทั้งยังมีราคาไม่สูงมาก) ผู้มีจิตศรัทธาทั้งพระและฆารวาส ทั้งชายหญิงจะมาช่วยกันผสมปูน รับถังปูนส่งกันเป็นทอด ๆ ขึ้นไปยังองค์พระ เทปูนลงในแบบ ถังแล้วถังเล่า ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนตกบ่าย ใครเหนื่อยล้าก็จะมีคนคอยผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่แทน เมื่อปูนถูกเทมาถึงช่วงคอองค์พระก็จะหยุดเพื่อนำโอ่งลายมังกรใบใหญ่สองใบส่งต่อกันขึ้นมา โอ่งใบหนึ่งบรรจุแผ่นชะตาซึ่งผู้มาร่วมงานจะเขียนชื่อ นามสกุลและวันเดือนปีเกิด ไว้ในแผ่นดวงนี้นำฝากไว้ในองค์พระใหญ่ เป็นเสมือนฝากดวงชีวิตของตนไว้กับองค์พระพุทธเจ้า ส่วนโอ่งอีกใบจะใส่พระพุทธรูปหรือพระประจำวันเกิดที่ชาวบ้านนำมาถวายวัดเพื่อบรรจุไว้ในองค์พระด้วย
เมื่อตั้งโอ่งสองใบไว้ในช่วงพระพักต์พระพุทธรูปผูกเหล็กไว้ดีแล้ว ก็จะเทปูนอีกรอบจนปูนเต็มพระเศียรก็จะหยุดเพื่อผูกเหล็กและประกอบแบบช่วง พระเกตุมาลา (รัศมีที่อยู่เหนือเศียรของพระพุทธรูป) ซึ่งในขั้นตอนนี้พระทั้งวัดจะเริ่มสวด ชยมงคลคาถา อัญเชิญ พระธาตุ นำขึ้นประดิษฐานไว้ในพระเกตุมาลานี้ จากนั้นจึงเทปูนขั้นสุดท้ายปิดพระเกตุมาลา เป็นเสร็จพิธี



เมื่อองค์พระแล้วเสร็จผู้คนเริ่มทยอยกันกลับ แต่งานหลักของพวกเรากำลังจะเริ่ม เมื่อปูนจับตัวกันดีแล้ว (ราว ๓ ชั่วโมง) ก็ถึงขั้นตอนการแกะแม่พิมพ์ ขั้นตอนนี้ต้องการความปราณีตบรรจงมาก เมื่อถอดน็อตจากแบบ ออกแล้วจะต้องค่อย ๆ แกะแบบและแซะปูนตามรอยต่อแม่พิมพ์ออก เนื้อปูนถึงจะจับตัวกันแล้ว แต่ก็ยังไม่แห้งแข็ง ขั้นตอนนี้ปูนจะเร่งคลายความร้อนออกทำให้น้ำในเนื้อปูนกลายเป็นละอองไอ ลอยขึ้นมารอบ ๆ องค์พระใหญ่ ค่ำคืนที่อากาศหนาวเย็นการทำงานรอบองค์พระนับว่าอบอุ่นจนถึงร้อนเหงื่อตกได้เลยที่เดียวครับ

ทุกครั้งที่ไปร่วมงาน ผมจะได้เห็นภาพของความสมัครสมานสามัคคีกันของผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาจากที่ต่าง ๆ มาเพื่อลงแรงร่วมมือร่วมใจกัน มีศูนย์รวมจิตใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หลาย ๆ คนนำอาหารและน้ำมาช่วยในงาน ผมเห็นคนทุกเพศทุกวัยหลากหลายอาชีพและฐานะทางสังคม มาช่วยกันอย่างแข็งขันอยู่กลางแดด ทั้งขนทราย ตักนิล ส่งปูน เทปูน ทำอาหาร ส่งน้ำ อย่างเต็มที่เต็มใจ ไม่มีเกี่ยงว่าใครทำมากใครทำน้อย แม้ผู้เฒ่าผู้แก่ก็มานั่งพนมมือสวดมนต์กันในศาลา ร่วมอำนวยอวยชัยให้พระใหญ่สร้างสำเร็จ เป็นภาพที่ยังความปลาบปลื้มยินดีแก่สาธุชนผู้พบเห็นยิ่ง...

งานในหนึ่งวันจากเช้าจนดึก... (๑๐ – ๑๕ ชั่วโมง) พระใหญ่องค์นี้จะตั้งเด่นเป็นสง่าให้ผู้มีจิตศรัทธาในพระศาสนาเคารพกราบไหว้ต่อไปอีกกว่าร้อยหรือสองร้อยปี นับว่าคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อแรงกายที่ทุ่มเทลงไปอย่างมาก ยังจะมีกิจกรรมดีดีอย่างนี้อีกในอนาคต ผมได้ทราบข่าวมาว่าเวลานี้ แม่พิมพ์พระองค์นี้ถูกนำไปยังภาคใต้แถบจังหวัดตรังและจะถูกนำไปจัดสร้างอีกหลาย ๆ วัดทั่วประเทศ...
เมื่อคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณเองก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานบำเพ็ญประโยชน์นี้ได้ ด้วยเพียงร่วมยินดีในการสร้างพระใหญ่ไปกับพวกเราด้วย พร้อมกับตั้งจิตให้สงบ ตั้งใจให้เป็นกุศล ร่วมอนุโมทนาบุญ (พร้อมยกมือพนมจรดหน้าผาก) แล้วเปล่งคำว่า ......สาธุ
ด้วยการ “ออกแรง” เพียงเท่านี้ จิตใดที่บริสุทธ์สงบสะอาด ปราศจากความเศร้าหมอง ขุ่นเคือง จิตใดที่พลอยยินดีในกุศลธรรมอันประกอบขึ้นโดยไม่เจือความโลภ,โกรธ,หลง บุญ ย่อมเกิดกับจิตที่เป็นมหากุศลดวงนั้น.



............................................

* บุญ น. ความดี, ความดีความงาม, (ปาก) กุศลที่เกื้อหนุนมาแต่อดีต เช่น เขาเป็นคนมีบุญ รากศัพท์ทำว่า บุญ มาจาก ภาษาบาลี – ปุญญ / สันสกฤต – ปุญย (พจนานุกรม ฉบับมติชน)
* บุญ เครื่องชำระสันดาน, ความดี, กุศล, ความสุข, ความประพฤติชอบทางกาย วาจาและใจ, กุศลธรรม (พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์)



*ปัจจุบัน ปี2552 แม่พิมพ์นี้ได้ถูกนำไปจัดสร้างพระพุทธรูปแล้ว 155 องค์ และยังคงจัดสร้างอยู่

หลวงปู่มั่น สอนธรรม



" คล้ายกับคน ไม่ใช่คน
ธรรม ไม่ใช่ธรรม ...ผลจึงไม่มี
ความจริง คนก็คือ คน
ธรรมก็คือ ธรรม อยู่นั่นเอง
แต่...คนไม่สนใจใน ธรรม
ธรรมก็ไม่เข้าถึงใจคน

...จึงกลายเป็นว่า
คนก็สักว่า คน
ธรรมก็สักแต่ว่า ธรรม อยู่นั่นเอง "

.........หลวงปู่ มั่น ภูริทัตต มหาเถระ.............

06 กันยายน, 2550

" เทวตานุสติ "

ชุด เพียงเป็น...เห็นพอ



" เทวตานุสติ "

เอาล่ะ...พวกเรามี องค์จุตคาม ไว้แขวนบูชากันครบทุกคนแล้วหรือยัง ?

นี่ถ้าไม่พูดถึงเรื่อง จุตคามรามเทพ เลยในรอบปีนี้ก็คงจะถูกหาว่าเชยเสียแล้ว
ในยุคเทวาภิวัฒน์ โหมกระหน่ำสื่ออย่างรุนแรง ท้าทายความเชื่อความศรัทธาที่เคยมีมา เป็นศรัทธาที่ครอบอยู่ด้วยความหวัง ความหลงงมงายอยากได้ใคร่มี ที่ต้องสะกิดกันไว้บ้าง แต่อย่ากระนั้นเลย ถึงจะมีแต่ศรัทธาเพียงบางส่วน ก็ยังนับว่ามีดีอยู่บ้าง ก็ขอให้หันมามองในส่วนดีที่ได้กันจะดีกว่า พวกเราจะได้ใช้สมองด้านดีดีทำงาน ขบคิด มองโลกในแง่ดีนิด คิดเผื่อให้สังคมสักหน่อย เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่คอยทอดถอนลมหายใจ เพื่อให้ใครบ้างคนได้คิด สักคนก็ยังดี...

หลายคนยังไม่รู้เลยว่า องค์พ่อจตุคามรามเทพ ที่กำลังดังกระฉ่อนไปทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่นี้ท่านเป็นใคร ? ทำอะไรเอาไว้ ทำไมพวกเขาถึงได้อัญเชิญขึ้นคอกันที ๓ - ๔ องค์ใหญ่ ๆ เบียดเอาที่พระพุทธ-พระสงฆ์ที่เคยครองใจลงไปได้ ทำให้ราคาในแผงเช่า ในตลาดพระเครื่อง,เทพเครื่อง ปั่น ปั่น ปั่นและป่วนไปทั่วประเทศ ธุรกิจในเครือหลากหลายต้องพลอยเดือดร้อนกับใบรายการสั่งซื้อสินค้าที่ทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เงินทองสะพัดไปทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวพันอยู่ แม้กระทั้ง พี่พรรับปะเสื้อผ้า น้าชัยคนขายไก่ย่าง ก็พลอยติดหางเลขไปด้วย รวยไปหลายหมื่นบาท เพราะความหาญกล้าไปท้าทาย ราชันดำ จ้าวแห่งทะเลใต้ องค์นี้เข้า ยิ่งทำให้ จตุคามฯ แน่จริง ดังจริง รวยจริง แบบไม่ต้องการเหตุผลกันขึ้นไปอีก เอ้า! ขอได้ ไหว้รับ...



ผู้เขียนเองก็ไม่ได้ตกยุค เพราะได้รับเหรียญจตุคามฯ ปี ๓๐ มาองค์หนึ่งจากพี่ที่นับถือกัน เมื่อหลายปีมาแล้ว ได้แต่ถามว่า “ พระอะไรครับ ? พี่ ” และถามความเป็นมา พี่เขาก็บอกเพียงว่า " ท่านเป็นผู้ปกป้องพุทธศาสนาในยุคอาณาจักรศรีวิชัยโน่น " งั้นก็เท่ากับว่า เหรียญที่ให้มีความเกี่ยวพันและมีส่วนช่วยส่งเสริมพุทธศาสนา ผมรับไว้และขอบคุณมากครับพี่...

ในฐานะพุทธมามกะ (ผู้ประกาศตนว่านับถือพระพุทธศาสนา) ใคร่ขอให้ทุกท่านมองเหตุการณ์นี้ด้วยปัญญาอย่างพุทธะบ้าง เพราะศรัทธาที่เคลือบไว้ด้วยความอยากและการค้าขายเพียงอย่างเดียว อาจไปไม่รอดในสังคมดิจิทอลที่มองทุกอย่างเป็นตัวเลขวิ่งขึ้นวิ่งลง ผู้คนในประเทศนี้ต่างก็ไขว่คว้าให้ได้มาซึ่ง เหรียญองค์ท้าวจตุคามฯ แล้วก็อยากได้กันคนละหลาย ๆ องค์ ไว้เพื่อปล่อยต่อในราคาสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดยหลงลืมศรัทธาจริงแท้ มูลเหตุแห่งความนับถือไปเสีย เห็นองค์ท่านเป็นเพียงวัตถุที่ทำเงินได้เพียงด้านเดียว

พุทธศาสดาของเรา ท่านทรงสอนให้บูชาบุคคลที่ควรบูชาอยู่แล้วในมงคล ๓๖ ประการซึ่งเป็นหลักของความดีต่อสังคม การบูชาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด บูชาครูอาจารย์ผู้ให้ความรู้ และเทวดาก็เป็นบุคคลที่ควรบูชาด้วยเช่นกัน ในการเจริญสมถกรรมฐานได้บัญญัติวิธีทำสติไว้ใน อนุสสติ ๑๐ ข้อ ๖ คือ...

เทวตานุสสติ อันหมายถึง การระลึกถึงคุณธรรมที่ทำให้บุคคลได้เป็นเทวดาอยู่เนื่อง ๆ บุคคลจะจุติเป็นเทวดาได้ จะต้องทำความเพียรไว้มากมาย บุคคลนั้นต้องมีทั้ง ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ มีศรัทธา วิริยะ หิริ โอตตัปปะ และปัญญา เมื่อจิตระลึกนึกไปถึงความเพียรที่ท่านได้ทำอย่างนั้น ๆ แล้วจะเกิดกำลังใจให้เราประพฤติปฏิบัติธรรมต่าง ๆ อย่างนั้นเพื่อให้เราได้รับผลได้เป็นเทวดาอย่างท่านบ้าง



แต่ที่เห็นขาดกันมาก ๆ ก็ หิริ (ความเกรงกลัวต่อบาป) โอตตัปปะ (ความละอายต่อบาปที่จะกระทำ) นี่แหละ เมื่อคนไม่เกรงกลัวบาปไม่ละอายต่อกรรม สังคมองค์รวมย่อมเสื่อมทรามลง เกิดปัญหากระทบกันไปในวงกว้าง กับทุกวงการ ปัญญาที่มีกลับเอาไปใช้ในทางอกุศล สร้างบาปที่วิจิตพิสดารกันขึ้นไปอีก สิ่งที่ได้ก็คือการค้าขายกับศรัทธาและความงมงายของผู้คน เป็นไปได้และเป็นไปแล้วที่ของออกจากวัด ๔๙ , ๙๙ หรือ ๑๙๙ บาท ผ่านไปเพียง ๒ – ๓ มือ ในหนึ่งวัน ราคาเปลี่ยนเป็นหลักพัน เป็นหมื่นไปได้ แถมของมีเฉพาะที่แผง แต่ไม่มีที่วัด เหมาะสมแล้วกับประโยคเด็ดที่ว่า

“ ตราบใดที่น้ำทะเลยังไม่เหือดแห้ง มึงมีกูไว้ไม่มีจน ”

ก็เห็นมีกันทุกคนแล้ว (คนละหลาย ๆ องค์ด้วย) พวกเขาก็ยังจนกันอยู่เลย จะมีก็แต่คนขาย+นายทุกหลักนั้นแหละที่รวยแบบอภิโคตะระมหึมามหาเศรษฐีขึ้นทุกทุกรุ่นที่ทำ... ก็อยากจะขอติไว้ให้ระวังกันบ้าง เพราะยังมีอีกประโยคเด็ดที่กล่าวไว้ว่า

“ กูให้มึงได้ กูเอาคืนได้ ”

ออกมาหยุดกระแสรวยไม่ลืมหูลืมตาอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเอามาปั่นกันให้ดังเท่านั้น (จาก เทวาภิวัฒน์ เนชั่นสุดสัปดาห์ หน้า ๑๔ ) ผู้เขียนคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องของคนมากว่าเรื่องของเทพฯ องค์เทพท่านมีเมตตา ท่านมาโปรดสัตว์โลกไปทั่วทุกหัวระแหงอยู่แล้ว ท่านคงอยากให้ชาวบ้านร้านตลาดมีท่านไว้บูชาในราคาไม่แพงเวอร์และไม่มีทำปลอมด้วย สาธุ



หากสังเกตรูปปั้น ท้าวจุตคาม ท้าวรามเทพ พี่น้องสองกษัตริย์ ที่ประทับอยู่ข้างบันไดทางขึ้นพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นั้นเหมือนจะมีไว้เตือนใจพวกเราว่า องค์กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในเขตแคว้นแดนใต้ สมมุติเทพผู้เปี่ยมไปด้วยบารมีธรรม ๑๐ ประการแห่งพระโพธิสัตว์ นั้นยังคงเฝ้าพิทักษ์ปกปักษ์รักษาพระสารีริกธาตุและพระพุทธศาสนามานานหลายร้อยปีแล้ว ผู้อ้างว่านับถือเคารพศรัทธาต่อองค์ท่านก็อย่าได้หลงลืมหรือหลงเพลินมองข้ามภารกิจอันสำคัญที่พระองค์ท่านทั้งสองได้เพียรกระทำไว้เป็นแบบอย่าง จนได้รับการยอมรับนับถือและจุติขึ้นเป็น อมรเทพเทวาผู้ยิ่งใหญ่ ในกาลต่อมา

เทวตานุสติ... องค์เทวากษัตราธิราชทั้งสอง ยังเสื่อมใสศรัทธาในพระพุทธองค์ ดำรงตนตามบทบัญญัติแห่งธรรมะ เผยแผ่สัจจะธรรมคำสอนแห่งพระพุทธศาสนาไปให้ไพศาล ผมทายได้เลยว่า ถ้าท่านทั้งสองคิดจะแขวน ท้าวจุตคาม ท้าวรามเทพ ท่านต้องแขวนพระพุทธะแน่นอน...

ผมมั่นใจ...

ศักย์ภูมิ
๖ พ.ค. ๒๕๕๐

.....................................................................................

04 สิงหาคม, 2550

คู่แรด คู่ป่วนภารกิจ









เกิดเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ภารกิจครั้งนี้ออกนอกทางไปบ้าง
ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายความสามารถของ ทีมงานตัดและต่อมือสมัคเล่นอย่างพวกเรา ย่นคุง กะ ยุ่งคุง
มาทำหน้าที่เล่าเรื่องแทน ครูแหลม ครับ






เริ่มจากงานบวงสรวง ไหว้ครู ก่อนครับ เพื่อความเป็นสิริมงคล










"...." - เซกิ ๆ ตื่นได้แล้ว เขาจะซ้อมกันแล้วนะ น้าหม่ำ มารอนานแล้ว (เอ๊ะ ! เสียงใคร)








หม่ำ - ไม่เป็นไร พี่รอได้
เอ้า 1.2.3. ยิ่มมมมม (แหม! นี่เราสวยเท่า ๆ กันเลยนะนี่)









อิ๊ด - นักแสดงจะมาเข้าฉากแล้ว ลงไปลงไป นี่ๆๆๆๆ
ไปเตรียมของได้แล้วววว
โชค - แหม!! ตกแต่งฉากมาทั้งคืน ขอนอนหน่อยน่า น้าอิ๊ด








หม่ำ - คนที่ต้องตกน่ะ แกต่างหาก ...ผิดคิวแล้ววว










ปราบต์ปฏล - หึหึหึ (มันมากับความมืด)












เซกิ - ทำไม ไปไหน มาไหนต้องมีแม่มาคุมทุกที่เลย..
กอล์ฟ - ก็คุณแม่หวงนี่ค่ะ พี่เซ...







วศิน - ทำไม ! ภาพออกมาแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น น้าอิ๊ด
(..* น้าสิน คนที่เล่นเป็น เซียนพระ ใน แสบสนิทฯ ไง คนเนี้ยจี้เส้นสุดๆๆ )

อิ๊ด - เอ๊ะ ผมผมผมไม่ได้เปลี่ยนบทของ น้าสิน นะ






ครูแหลม - อุ๊ย ๆ ๆ หลุด ๆ ๆ น้าสิน ดูๆๆๆๆๆ
วศิน - อะจ๊ากกกกกกก ภาพในจอหลุด หายยยยย
....... ใครอยู่ใกล้ปลั๊ก เสียบคืนที








ลุงสมิงขาว ตั้งใจ + ยอมตามใจ ให้ย้อนยุค สี่เต้าทอง... เอ๊ย !! เต่าทอง










หม่ำ - ปะปะปราบต์ เฮ้ยย จิ้มมันดีดีนะ อย่าติดเรดาล่ะ
ปราบต์ปฏล - ครับน้าหม่ำ ตามคิว เป๊ะๆๆ ครับ เสียบตรงนี้เลย ครูแหลม สั่งมา

หม่ำ - ว้ายยยยย วี๊ดดดดด กะตู้วู้ววววว!!!!







เทคนิคแบบเฉินหลงทำกันนะครับ เชื่อ สายเชีย เถอะดูงานมาเยอะแล้ว

สายเชีย - แกเฉย ๆ ๆไว้ แกเชื่อฉันไหมเหล่า
นก ใต้ - เชื่อครับพี่ เชื่อๆๆ กะเซกิถีบหน้ามาตั้ง 5เทค แล้วอ่ะ ให้พี่เชีย ถีบดีกว่า

(..* น้าสายเซีย แกดังกะโฆษณา จน เครียด กินเหล้า ครับ จำกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง)









ครูแหลม - เซกิ มาแล้วเหรอ มาซ้อมได้แล้ว
เซกิ - ครูแหลมครับ เดี๋ยว ขอกินกาแฟ ก่อนได้ไหมครับ .... ขอบคุณครับ

.........
เซกิ - ซ้อมแล้วนะครับ






หม่ำ - 555 ฉากต่อไปเอาอย่างนั้นเลยเหรอ 555
วศิน - คร้าบ น้าหม่ำ ผมต้องการบีบอารมณ์คนดูครับ 555
หม่ำ - เอ้า เอาตามนั้นนะ ได้ได้ 5555








เซกิ - พระเอกรูปหล่อมาช่วยแล้ววววววว










ปราบต์ - หึหึหึ เรื่องความหล่อ ผมก็ไม่ถอยใครเหมือนกัน เอ้าพรรคพวกตามมา
(..* ฉากนี้ไม่มีในหนังง่ะ )









หม่ำ - หุหุหุ ฉากนี้ !!เอายังงี้แน่นะ น้าสิน !!
วศิน - ไม่เป็นไรครับ น้าหม่ำ ชัวร์ ครับ ชัวร์ 555

หม่ำ - ชัวร์ แน่นะ น้า ...น้ามายืนเองมั้งซิ เสียวโว้ยยยยย *#$#%*<







หม่ำ - เอ้า คิดมุกคิดแม๊ก กันเข้าไป ไม่ต้องห่วง หม่ำเล่นได้หมด











สายเชีย - เอ้าอึ๊บบบบ นพ แกนี่หนักกี่โลว่ะนี้
ครูแหลม - น้าเชีย พอได้แล้ว พอแล้ว คิวนี้ไม่เอาแล้ว คัทๆๆๆ












ไข่มุก - มุกซะอย่าง คนสวย ๆ ต้องรีบวิ่งเข้าประกบ คนมันกะลังดัง ฮิๆๆๆๆๆ










....พักฮ้า เต้นมาตั้งสองชั่วโมงแล้วฮ้า สั่งเต้น สั่งคัท คัทคัทเต้นเต้น เหนื่อย









จิ๋ว - มาเลยยย ลิลลี่(เด็ก) ไม้มวยไทยเอ๊งไม่เท่าไหร่หรอก
ลิลลี่ - น้ำหนักชั่งเมื่อเช้า เท่าไหร่ น้าจิ๋ว








นพรัตน์ - นี่ ฉากนี้ต้องใส่อารมณ์แบบนี้ มันถึงจะเอาอยู่ ทำได้นะ
ปราบต์ - ได้ครับ พี่โจ











ครูแหลม - เดี๋ยว พอเจ้าดำ บุกเข้ามา น้าหม่ำ ก็ยกเข่าแล้วลง ท่าเสือลากหาง เลยนะ
หม่ำ - นี่ ! ท่าคุ้น ๆ นะนี่ มวยไชยา ใช่เหรอเปล่า จำท่าได้








หม่ำ - สบายมาก ท่านี่เปล่า ท่ามวยไชยา ...
ครูแหลม - อะ พอได้ครับ น้าหม่ำ พอได้ หาดูยากกก












หม่ำ - เฮ้ยยย ดำ ดำ บีบแรงไปแล้วโว้ย อย่าทำเกินบทซิว่ะ
ดำ - น้า นั้นแหละ บีบแรงก่อน










วศิน - อะจ๊ากกกกก มวยไชยา เหอๆๆๆ ต้องเจอกะ ฝ่ามืออะจ๊ากคุง ซะหน่อย























" งั้นต้องผ่านพวกผมไปก่อนซะแล้ววว " (เบิ้ม , ไอซ์ , ดำ / สามสมุนตัวกลั้นในเรื่องครับ)
วศิน - อะจ๊ากกกก พวกลิ้วล้อหลบไป เจ้าไม่คู่ควร







ครูแหลม - ไม่เอา ไม่เอา สันติ สันติ เราสงบแล้ว ขอให้ท่านนิ่งเสีย วางเฉยไว้
วศิน - อะจ๊ากกกก เป็นเป้านิ่ง นะจิ ไม่ว่า









น้องส้ม - อะ พี่หม่ำ อะ มองตาซิคะ มองตา ...
หม่ำ - ส้มเอ๋ย พี่มองตาแล้ว แต่คิ้วมันอยู่ต่ำว่ะ ... อะเจือกกก
น้องส้ม - !!!!!!









เซกิ - เกิดอะไรขึ้น เซกิ ผู้พิทักษ์มาช่วยแล้ว








ครูแหลม - เซกิ มาแล้วเหรอ มาซ้อมได้แล้ว
เซกิ - ครูแหลมครับ เดี๋ยว ขอกินกาแฟ ก่อนได้ไหมครับ .... ขอบคุณครับ
ปราบต์ - กินกาแฟ ทั้งปี !!!!







หม่ำ - เอ้าวันนี้วันเกิดเซกิ เอ้าเอาไปกินกะกาแฟ นะ
เซกิ - อาริกาโตะ (น้ำตาไหลพราก...)








สายเชีย - " ต่อให้ดาวบนฟ้า ไม่เคยทอประกาย...ถึงเรา "
(- แสดงเป็นแมลงสาบ ช้างน้ำ คิงคอง อะไรๆๆก็ทำมาหมดแล้ว งานนี้หมูมากกกกค่า ขอบอก)











ครูแหลม - เซกิ กินเสร็จแล้ว มาซ้อมต่อนะ ยังต้องถ่ายซ่อมฉากจบอีกนะ
เซกิ - ครับ ได้ครับ ครูแหลม ขอกินกาแฟอีก สองแก้วก่อน...นะครับ

ย่นคุง - นาน ๆ จะเห็นครูแหลม แต่งตัวตามสมัยกะเขาซะที เออ พอทนดูได้นะ (แซวครับ)








หม่ำ - อ้าว ! จบแล้วเหรอ ว้าว กำลังอินเลย จะทำภาคต่อไหมละ น้าสิน
วศิน - อะอะ ยังครับ น้าหม่ำ ขอดูตัวเลขก่อนนะครับ ถ้าสวย เรามาทำกันอีกสัก 2 ภาคเลยเอ้า








ปราบต์ - จบซะที ได้ยิ้มแล้ว เฮ้อ โล่งอก (เดี๋ยวคนดูจะติดภาพดาวร้าย)









วศิน - ปิดกล้องแล้ว พวกเดียวกันนะตัวเอง น่ะ
ครูแหลม - ฮิ ๆ ๆ ๆ

(..* หักหลังดาราจำเป็น ขอหน่อยนะครับครู อ่า หลาย ๆ คนเขาอยากเห็นอ่ะ หาดูยาก 555 )







ปิดกล้องซะที เวลาปีนี่มันเร็วจังนิ ขอให้หนังได้สัก 150ล้าน ทีเถอะ









เซกิ - หมีแพนด้า หมีแพนด้า ห้าห้าห้า สักแก้วมะพี่ เอ๊ย น้า
วศิน - ไม่อะ บอยไม่ดื่ม ฮ้า








"ภาพยนตร์อวสาน ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงาน "
"ขอบคุณค่ะ"













เซกิ - จบแล้วครับ สวัสดีครับ

หม่ำ - ฮา จบนะ ฮา ๆ ๆ ขำอ่ะ ไม่ดูไม่ได้แล้วววว





***************************************************
ป่วนชายกระโปงคู่แรดโดย - ย่นคุง กะ ยุ่งคุง