sakkapoom.blogspot.com

.......................................................
ผ่านทาง... สร้างประสบการณ์ ให้ชีวิต
ผ่านชีวิต... สร้างจิตสำนึก ต่อสังคม
ผ่านสังคม... มอบสิ่งดีงาม เอาไว้ให้
ผ่านไป... ชีวิตวางทางไว้เบื้องหลัง จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้หันกลับไปมอง.


06 กันยายน, 2550

" เทวตานุสติ "

ชุด เพียงเป็น...เห็นพอ



" เทวตานุสติ "

เอาล่ะ...พวกเรามี องค์จุตคาม ไว้แขวนบูชากันครบทุกคนแล้วหรือยัง ?

นี่ถ้าไม่พูดถึงเรื่อง จุตคามรามเทพ เลยในรอบปีนี้ก็คงจะถูกหาว่าเชยเสียแล้ว
ในยุคเทวาภิวัฒน์ โหมกระหน่ำสื่ออย่างรุนแรง ท้าทายความเชื่อความศรัทธาที่เคยมีมา เป็นศรัทธาที่ครอบอยู่ด้วยความหวัง ความหลงงมงายอยากได้ใคร่มี ที่ต้องสะกิดกันไว้บ้าง แต่อย่ากระนั้นเลย ถึงจะมีแต่ศรัทธาเพียงบางส่วน ก็ยังนับว่ามีดีอยู่บ้าง ก็ขอให้หันมามองในส่วนดีที่ได้กันจะดีกว่า พวกเราจะได้ใช้สมองด้านดีดีทำงาน ขบคิด มองโลกในแง่ดีนิด คิดเผื่อให้สังคมสักหน่อย เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่คอยทอดถอนลมหายใจ เพื่อให้ใครบ้างคนได้คิด สักคนก็ยังดี...

หลายคนยังไม่รู้เลยว่า องค์พ่อจตุคามรามเทพ ที่กำลังดังกระฉ่อนไปทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่นี้ท่านเป็นใคร ? ทำอะไรเอาไว้ ทำไมพวกเขาถึงได้อัญเชิญขึ้นคอกันที ๓ - ๔ องค์ใหญ่ ๆ เบียดเอาที่พระพุทธ-พระสงฆ์ที่เคยครองใจลงไปได้ ทำให้ราคาในแผงเช่า ในตลาดพระเครื่อง,เทพเครื่อง ปั่น ปั่น ปั่นและป่วนไปทั่วประเทศ ธุรกิจในเครือหลากหลายต้องพลอยเดือดร้อนกับใบรายการสั่งซื้อสินค้าที่ทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เงินทองสะพัดไปทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวพันอยู่ แม้กระทั้ง พี่พรรับปะเสื้อผ้า น้าชัยคนขายไก่ย่าง ก็พลอยติดหางเลขไปด้วย รวยไปหลายหมื่นบาท เพราะความหาญกล้าไปท้าทาย ราชันดำ จ้าวแห่งทะเลใต้ องค์นี้เข้า ยิ่งทำให้ จตุคามฯ แน่จริง ดังจริง รวยจริง แบบไม่ต้องการเหตุผลกันขึ้นไปอีก เอ้า! ขอได้ ไหว้รับ...



ผู้เขียนเองก็ไม่ได้ตกยุค เพราะได้รับเหรียญจตุคามฯ ปี ๓๐ มาองค์หนึ่งจากพี่ที่นับถือกัน เมื่อหลายปีมาแล้ว ได้แต่ถามว่า “ พระอะไรครับ ? พี่ ” และถามความเป็นมา พี่เขาก็บอกเพียงว่า " ท่านเป็นผู้ปกป้องพุทธศาสนาในยุคอาณาจักรศรีวิชัยโน่น " งั้นก็เท่ากับว่า เหรียญที่ให้มีความเกี่ยวพันและมีส่วนช่วยส่งเสริมพุทธศาสนา ผมรับไว้และขอบคุณมากครับพี่...

ในฐานะพุทธมามกะ (ผู้ประกาศตนว่านับถือพระพุทธศาสนา) ใคร่ขอให้ทุกท่านมองเหตุการณ์นี้ด้วยปัญญาอย่างพุทธะบ้าง เพราะศรัทธาที่เคลือบไว้ด้วยความอยากและการค้าขายเพียงอย่างเดียว อาจไปไม่รอดในสังคมดิจิทอลที่มองทุกอย่างเป็นตัวเลขวิ่งขึ้นวิ่งลง ผู้คนในประเทศนี้ต่างก็ไขว่คว้าให้ได้มาซึ่ง เหรียญองค์ท้าวจตุคามฯ แล้วก็อยากได้กันคนละหลาย ๆ องค์ ไว้เพื่อปล่อยต่อในราคาสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดยหลงลืมศรัทธาจริงแท้ มูลเหตุแห่งความนับถือไปเสีย เห็นองค์ท่านเป็นเพียงวัตถุที่ทำเงินได้เพียงด้านเดียว

พุทธศาสดาของเรา ท่านทรงสอนให้บูชาบุคคลที่ควรบูชาอยู่แล้วในมงคล ๓๖ ประการซึ่งเป็นหลักของความดีต่อสังคม การบูชาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด บูชาครูอาจารย์ผู้ให้ความรู้ และเทวดาก็เป็นบุคคลที่ควรบูชาด้วยเช่นกัน ในการเจริญสมถกรรมฐานได้บัญญัติวิธีทำสติไว้ใน อนุสสติ ๑๐ ข้อ ๖ คือ...

เทวตานุสสติ อันหมายถึง การระลึกถึงคุณธรรมที่ทำให้บุคคลได้เป็นเทวดาอยู่เนื่อง ๆ บุคคลจะจุติเป็นเทวดาได้ จะต้องทำความเพียรไว้มากมาย บุคคลนั้นต้องมีทั้ง ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ มีศรัทธา วิริยะ หิริ โอตตัปปะ และปัญญา เมื่อจิตระลึกนึกไปถึงความเพียรที่ท่านได้ทำอย่างนั้น ๆ แล้วจะเกิดกำลังใจให้เราประพฤติปฏิบัติธรรมต่าง ๆ อย่างนั้นเพื่อให้เราได้รับผลได้เป็นเทวดาอย่างท่านบ้าง



แต่ที่เห็นขาดกันมาก ๆ ก็ หิริ (ความเกรงกลัวต่อบาป) โอตตัปปะ (ความละอายต่อบาปที่จะกระทำ) นี่แหละ เมื่อคนไม่เกรงกลัวบาปไม่ละอายต่อกรรม สังคมองค์รวมย่อมเสื่อมทรามลง เกิดปัญหากระทบกันไปในวงกว้าง กับทุกวงการ ปัญญาที่มีกลับเอาไปใช้ในทางอกุศล สร้างบาปที่วิจิตพิสดารกันขึ้นไปอีก สิ่งที่ได้ก็คือการค้าขายกับศรัทธาและความงมงายของผู้คน เป็นไปได้และเป็นไปแล้วที่ของออกจากวัด ๔๙ , ๙๙ หรือ ๑๙๙ บาท ผ่านไปเพียง ๒ – ๓ มือ ในหนึ่งวัน ราคาเปลี่ยนเป็นหลักพัน เป็นหมื่นไปได้ แถมของมีเฉพาะที่แผง แต่ไม่มีที่วัด เหมาะสมแล้วกับประโยคเด็ดที่ว่า

“ ตราบใดที่น้ำทะเลยังไม่เหือดแห้ง มึงมีกูไว้ไม่มีจน ”

ก็เห็นมีกันทุกคนแล้ว (คนละหลาย ๆ องค์ด้วย) พวกเขาก็ยังจนกันอยู่เลย จะมีก็แต่คนขาย+นายทุกหลักนั้นแหละที่รวยแบบอภิโคตะระมหึมามหาเศรษฐีขึ้นทุกทุกรุ่นที่ทำ... ก็อยากจะขอติไว้ให้ระวังกันบ้าง เพราะยังมีอีกประโยคเด็ดที่กล่าวไว้ว่า

“ กูให้มึงได้ กูเอาคืนได้ ”

ออกมาหยุดกระแสรวยไม่ลืมหูลืมตาอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเอามาปั่นกันให้ดังเท่านั้น (จาก เทวาภิวัฒน์ เนชั่นสุดสัปดาห์ หน้า ๑๔ ) ผู้เขียนคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องของคนมากว่าเรื่องของเทพฯ องค์เทพท่านมีเมตตา ท่านมาโปรดสัตว์โลกไปทั่วทุกหัวระแหงอยู่แล้ว ท่านคงอยากให้ชาวบ้านร้านตลาดมีท่านไว้บูชาในราคาไม่แพงเวอร์และไม่มีทำปลอมด้วย สาธุ



หากสังเกตรูปปั้น ท้าวจุตคาม ท้าวรามเทพ พี่น้องสองกษัตริย์ ที่ประทับอยู่ข้างบันไดทางขึ้นพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นั้นเหมือนจะมีไว้เตือนใจพวกเราว่า องค์กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในเขตแคว้นแดนใต้ สมมุติเทพผู้เปี่ยมไปด้วยบารมีธรรม ๑๐ ประการแห่งพระโพธิสัตว์ นั้นยังคงเฝ้าพิทักษ์ปกปักษ์รักษาพระสารีริกธาตุและพระพุทธศาสนามานานหลายร้อยปีแล้ว ผู้อ้างว่านับถือเคารพศรัทธาต่อองค์ท่านก็อย่าได้หลงลืมหรือหลงเพลินมองข้ามภารกิจอันสำคัญที่พระองค์ท่านทั้งสองได้เพียรกระทำไว้เป็นแบบอย่าง จนได้รับการยอมรับนับถือและจุติขึ้นเป็น อมรเทพเทวาผู้ยิ่งใหญ่ ในกาลต่อมา

เทวตานุสติ... องค์เทวากษัตราธิราชทั้งสอง ยังเสื่อมใสศรัทธาในพระพุทธองค์ ดำรงตนตามบทบัญญัติแห่งธรรมะ เผยแผ่สัจจะธรรมคำสอนแห่งพระพุทธศาสนาไปให้ไพศาล ผมทายได้เลยว่า ถ้าท่านทั้งสองคิดจะแขวน ท้าวจุตคาม ท้าวรามเทพ ท่านต้องแขวนพระพุทธะแน่นอน...

ผมมั่นใจ...

ศักย์ภูมิ
๖ พ.ค. ๒๕๕๐

.....................................................................................