sakkapoom.blogspot.com

.......................................................
ผ่านทาง... สร้างประสบการณ์ ให้ชีวิต
ผ่านชีวิต... สร้างจิตสำนึก ต่อสังคม
ผ่านสังคม... มอบสิ่งดีงาม เอาไว้ให้
ผ่านไป... ชีวิตวางทางไว้เบื้องหลัง จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้หันกลับไปมอง.


03 ธันวาคม, 2552

เพรียกไผ่ เพียงออ



๑." เพียงออ เพียงขลุ่ยไม้ เพียงเรา
เพียงไผ่ เพียงใจเหงา ค่ำนี้

๒. เพรียกไผ่ เพียงแผ่นเบา โหยอ่อน
เพียงลมเจ้าผัดผ่าน วันวาน บ่ หวลคืน
...เย็นแลเย็นยะเยือก ผิวกาย เจ้าเอย
เหน็บหนาวร้าวจิตไร้ ความหมาย

๓. วันเปลี่ยน ใจเปลี่ยนไป สุดหยั่ง
ดั่งเพลงเพียงออแว่ว เพรียกแล้ว เลือนหาย "



เพียง เพียงออ, รุ่งนภา เกตุดาว
ฤดูหนาว ปลายปี ๒๕๓๐



........................................
* เมื่อเพื่อนของผม ส่งบทกวีบทนี้มาให้ผม
จำได้ว่า ผมเป็นคนแต่งขึ้นในสองบรรทัดแรก (๑)
พยายามจะแต่งให้เป็นโคลงสี่สุภาพ นานมาแล้ว
...แต่อีกสี่บรรทัดถัดมา (๒)ผมไม่รู้ว่าใครแต่งต่อ
เพื่อนผมให้ผมทาย ?...
และพร้อมกับขอร้องให้ผมแต่งให้จบ...เป็นการยากมาก
ที่คนสองคนจะเชื่อมต่อความรู้สึก,อารมณ์ ในบทกวีชิ้นเดียวกันได้

...ผมพยายามอยู่หลายวัน ที่จะเชื่อมอารมณ์กับใครคนนั้น
และคิดไปถึงคนที่แต่งบทกวีต่อจากผมด้วย (อาจเป็นพี่เสี้ยวจันทร์)
เขาคิดถึงอะไร รู้สึกอย่างไร ในคำที่เขากลั่นออกมา

ผมได้สองบรรทัดสุดท้าย และจบบทกวีข้ามปีนี้ด้วยความอาดรู
"รุ้ง" หญิงสาวที่ ดวงตาของเธอยิ้มได้...
(เสี้ยวจันทร์ เคยบอกแบบนั้น)ไม่รู้อะไรทำให้คิดไปถึงเธอ
ผมตอบคำถามได้ถูกต้อง และได้บทกวีชิ้นงามนี้ขึ้นมา
อยากให้ รุ้งนภา ได้อ่านฉบับสมบูรณ์นี้จัง ...เธอคงชอบ.